รู้ไว้ดีกว่า ผัก 4 ชนิด ควรลวกก่อนกิน ไม่อย่างนั้นเสี่ยงนิ่วในไต ตับสะสมสารพิษเต็มๆ

แม้จะขี้เกียจแค่ไหน แต่เมื่อกินผัก 4 ชนิดนี้ ควรลวกก่อนทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นไตเสี่ยงมีนิ่ว ตับก็สะสมสารพิษเต็มๆ

หากไม่ลวกผัก 4 ชนิดนี้ก่อนปรุงอาหาร ก็เหมือนคุณกำลังเปิดทางให้โรคร้ายถามหา ทั้งโรคตับ ไต และปัญหาทางเดินอาหาร

ผักเป็นส่วนสำคัญของอาหารที่ให้วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย แต่การกินผักให้ได้ประโยชน์สูงสุดก็ต้องรู้วิธี เพราะผักบางชนิดมีสารที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หากไม่ผ่านการปรุงให้เหมาะสม โดยเฉพาะต่อระบบตับ ไต และลำไส้

ข่าวดีคือ สารเหล่านี้สามารถลดลงได้ง่าย ๆ แค่ “ลวกก่อนกินหรือปรุง” ดังนั้น แม้จะเร่งรีบแค่ไหน ผัก 4 ชนิดต่อไปนี้ต้องลวกก่อนเสมอ

1. ผักที่มีกรดออกซาลิกสูง

กรดออกซาลิกพบในผักหลายชนิด เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ขึ้นฉ่าย และมะระ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย กรดออกซาลิกจะจับกับแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและธาตุเหล็ก สร้างเป็นผลึกแคลเซียมออกซาเลตที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดนิ่วในไต นิ่วในไตเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

การลวกผักที่มีกรดออกซาลิกก่อนกินเป็นวิธีง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดกรดนี้ลง การศึกษาพบว่า ยิ่งลวกนาน ยิ่งช่วยลดกรดออกซาลิกลงได้มาก หากไม่ลวก ผักที่มีกรดออกซาลิกอาจทำให้ไตทำงานหนักเกินไปในการขจัดผลึกแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดนิ่วในไตและภาวะไตเสื่อมในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีประวัติปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไต

2. ผักที่มีไนไตรต์

ไนไตรต์เป็นสารประกอบที่พบได้ในผักบางชนิด โดยเฉพาะถั่วงอกและผักกาดเขียว ไนไตรต์เป็นสารก่อมะเร็งแรง เมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหารและเจอกับกรดจะเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่

การลวกผักที่มีไนไตรต์ช่วยลดปริมาณสารนี้ได้อย่างมาก งานวิจัยพบว่า ไนไตรต์ในถั่วงอกสามารถลดลงได้ถึง 87% หลังจากลวกในน้ำร้อน หากไม่ลวกก่อนกิน ไม่เพียงเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังทำให้ตับต้องทำงานหนักในการขจัดสารพิษ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาตับอยู่แล้ว ควรระวังเป็นพิเศษ

3. ผักที่มีสารซาโปนิน

ซาโปนินเป็นสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพสูง พบมากในพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วเลนทิล ถั่วลันเตา แม้ว่าซาโปนินจะมีประโยชน์ในด้านสมุนไพร แต่หากไม่ผ่านการปรุงให้ถูกวิธี อาจทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย หรือคลื่นไส้ได้

ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ ซาโปนินสามารถทำลายเยื่อหุ้มเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแตก นำไปสู่โรคโลหิตจางและตัวเหลือง

โชคดีที่ซาโปนินจะสลายเมื่อโดนความร้อน การลวกผักที่มีสารนี้จึงช่วยลดพิษได้อย่างมาก หากไม่ลวกก่อนกิน สารเหล่านี้อาจสะสมในร่างกาย ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ไขมันพอกตับหรือโรคตับแข็ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาตับอยู่แล้ว ความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่า

4. ผักที่ทำความสะอาดยากและเสี่ยงติดพยาธิ

ผักบางชนิด เช่น บร็อคโคลี่ ผักบุ้ง ผักบุ้งน้ำ และหัวบัว เป็นผักที่มักติดเชื้อแบคทีเรียและพยาธิ เนื่องจากเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากแบคทีเรีย เช่น ลิสเทอเรีย ซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ หากไม่ได้ปรุงอย่างถูกวิธี แบคทีเรียเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ปัญหาทางเดินอาหาร และการติดเชื้อในลำไส้

การลวกผักจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการขจัดแบคทีเรียและพยาธิ ช่วยปกป้องระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงต่อการทำลายตับและไต หากไม่ลวก ผักเหล่านี้จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นในการขจัดสารพิษ และเพิ่มภาระให้กับไตในการกรองสารพิษเหล่านี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *