เรียกว่าเป็นเรื่องเตือนใจคนในยุคสังคมก้มหน้าแบบนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท ออกมาเล่าถึงเคสของผู้ป่วยรายหนึ่งที่ปวดหัวมา 6 เดือน ไปตรวจที่ไหนก็ไม่เจอสาเหตุ แถมผลเอกซเรย์สมองก็ปกติ แต่สุดท้ายสาเหตุกลับเกิดจากพฤติกรรมที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ
โดย ผศ.นพ.สุรัตน์ โพสต์เล่าเคสดังกล่าวทางเพจ สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ ระบุว่า คนไข้ชายวัย 58 ปี ปวดหัวมา 6 เดือน ไปตรวจที่ไหน ไม่เจอเหตุ กิน codiene ยาแก้ปวด อนุพันธ์ยาเสพติด จนไม่หาย ปวดหัว ชาหัว ยิ่งนอนยิ่งปวด แต่ X ray CT brain สมองก็ปกติ

มีคนส่งมาหา คือเดินเข้ามานี่คอยื่นเลย คอยื่นเหมือนนกแร้งคอยาวไปข้างหน้า เลยถาม ทำอาชีพอะไร คนไข้ตอบว่าทำงานหน้าจอคอม นาน ๆ มาก ๆ วันละเกิน 6 ชั่วโมง ท่านั่งก็คือโค้งตัว ยื่นคอไป นานมาก ๆ
อาจารย์ตรวจคอ กดแล้วร้าวขึ้นหัวเลย แปล๊บ ตึง ชา บอกหมอว่านี่แหละที่ปวด ทำให้รู้ว่าเป็น cervicogenic headache ปวดหัวจากกระดูกคอ กล้ามเนื้อก็ตึง พยายามพยุงคอที่ยาวและผิดรูป ก็ปวดไปกันใหญ่
สรุปเอกซเรย์ดู พบว่าคอเบี้ยว เสื่อมเละไปหมด จึงรีบส่งหมอกายภาพและกระดูก ก่อนจะแย่กว่านี้
สำหรับเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า
1. เล่นคอม เล่นมือถือนาน ๆ คอยื่น กระดูกเสื่อม
2. ปวดหัว มาจากคอได้ อย่าดูแค่ที่หัว ที่สมอง
3. เจอหมอคนแรกไม่หาย หาหมอคนที่ 2 ได้ บางทีมุมมองต่างกัน
การป้องกันและการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
– ปรับโต๊ะทำงานให้ถูกหลัก Ergonomic (หน้าจออยู่ระดับสายตา เท้าวางราบ แขนมีที่พัก)
– ใช้กฎ 20-20-20 (ทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที)
– ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของคอ/หลัง