วิธีรับมือเมื่อถูกโกง ซื้อ-ขาย บนโลกออนไลน์ - TECHMIXIT

วิธีรับมือเมื่อถูกโกง ซื้อ-ขาย บนโลกออนไลน์

วิธีรับมือมิจฉาชีพ และการรักษาสิทธิ์เบื้องต้น ในกรณีถูกฉ่อโกงในการทำธุรกรรม ซื้อ-ขาย บนโลกออนไลน์เบื้องต้น

เมื่อถูกหลอกแล้วจะตกเป็น ผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพได้ทันทีตามกฎหมาย โดยต้องแจ้งความภายใน 3 เดือน นับแต่รู้ตัวเอง และรู้ตัวผู้กระทำความผิด โดยไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ถ้าเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์จากที่บ้าน ก็สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้านได้ทั้งหมด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี คือ กรมปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
 
1.เก็บหลักฐาน ข้อมูล ให้มากที่สุด : หากรู้ตัวแล้วว่าโดนมิจฉาชีพหลอกให้ทำการรีบเก็บรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ยิ่งเป็นการดีต่อการสืบสวน เช่น ภาพหน้าร้านเพจ, โปรไฟล์ของพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ขายสินค้า, โพสต์, ที่ประกาศขายสินค้า, แชต, ข้อความการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย, บัญชี, ธนาคารที่โอนเงินไป, สลิป และ การโอนเงินชำระค่าสินค้า
 
2. ประสานงาน ติดต่อแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ :
หากในธุรกรรมของเรามีการ ซื้อ-ขาย ผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นหลักแหล่ง เชื่อถือได้ ให้เรานำหลักฐานการแจ้งความ เพื่อแจ้งประสานงานขอข้อมูลมิจฉาชีพ ที่ใช้ทำการสมัคร เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ ในการตามตัวได้ เช่น IP Address (หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายสามารถบอกได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่ไหน), การยืนยันตัวตน และอื่นๆ จากผู้บริการเว็บไซต์นั้นๆ
 
3. นำหลักฐานที่ได้เพิ่มเติม ไปดำเนินการต่อ :
หากได้หลักฐานเพิ่มเติมมามากขึ้น เช่น ใบหน้า และข้อมูลของการยืนยันตัวตน ก็สามารถไปแจ้งยังสถานีตำรวจเพื่อดำเนินการต่อได้ทันที หรือเลข IP Address ก็สามารถนำไปยื่น ISP (หน่วยงานที่ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) ของ IP Address นั้นๆ พร้อมกับใบแจ้งความ เพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์มือถือ เบอร์โทรศัพท์บ้าน และ ชื่อ-นามสกุล
 
4.ส่งข้อมูลที่ได้เพิ่มมาให้กับตำรวจ เพื่อตามตัว :
ถ้าได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ก็นำหลักฐานส่งต่อให้กับทางตำรวจเพื่อประสานงานออกหมายเรียก ตามตัว หรือหมายศาลไปยังมิจฉาชีพ เพื่อดำเนินคดีความในลำดับต่อไป
 
ซึ่งหากตามตัวมิจฉาชีพได้แล้ว ทางผู้ต้องหาจะโดนดำเนินคดีความทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต
ในกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 วรรค 1 มีเนื้อหาดังนี้
“การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนเอาผิดตามกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ได้”
ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

 

ข้อมูล : สสส., กองปราบปราม